Chào các bạn! Vì nhiều lý do từ nay Truyen2U chính thức đổi tên là Truyen247.Pro. Mong các bạn tiếp tục ủng hộ truy cập tên miền mới này nhé! Mãi yêu... ♥

- Chapter2 -




ผนังห้องนอนโทนสีเทาที่ถูกปกคลุมไปด้วยโปสเตอร์วงดนตรีแนวร็อค กับอัลบั้มเพลง ตลับเทปCassette ต่างๆที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นวางของ ทำให้ฉันเดาไม่ยากว่าเขา 'นายหัวดำ'คงชอบดนตรีแนวร๊อคแอนด์โรลอยู่ไม่น้อย

"เธอมาจากไหน" ฉันละสายตาจากตลับเทปพวกนั้นมายังชายหนุ่มตรงหน้าที่เพิ่งตั้งคำถามใส่ฉัน

"ฉันไม่รู้"แต่คำตอบที่เขาจะได้รับจากฉันคงเป็นสามคำนี้

"แล้วชื่อเธอล่ะ"

"ฉันไม่รู้" บอกแล้วไง สามคำเดิม หลุดออกมาจากปากของฉัน ฉันหลบสายตาไปที่พื้นห้องทันที่ที่เห็นหน้านายนั่น หน้าเขาเหมือนกำลังบีบคอฉันอยู่เลย

"งั้นเธอคงหมดธุระกับฉันเเล้วหล่ะ ฉันมองไม่เห็นทางที่ฉันจะช่วยอะไรเธอได้เลย"

"งั้น....." ฉันหยุดเพื่อกรั่นกรองคำพูดที่ฟังดูมีเหตุผลมากที่สุด

"นายให้ฉันอยู่ที่นี่ อยู่กับนายไปก่อนได้มั้ย จนกว่าฉันจะเจอคนที่ฉันนึกได้หรือคนที่เห็นฉันเหมือนนาย"

"นึกได้? เธอหมายความว่ายังไง" เขาขัดฉันขึ้นมาพลางลุกขึ้นจากเตียงไปลากเก้าอี้นวมลายเป็ดแล้วส่งสัญญาณให้ฉันมานั่ง 'ฮ่าฮ่า ทำไมลายตุ๊ดจังวะ' แน่นอนฉันนึกในใจ ถ้าพูดออกไปมีหวังถูกเขาไล่ตะเพิดออกจากบ้านเเน่

"ความทรงจำฉันเหมือนมันจะผุดขึ้นมาตลอด เมื่อกี้ที่ฉันเห็นป้ายหน้าห้องนายฉันก็เห็นหน้าแม่ฉันกับห้องนอน" ฉันนั่งลงไปที่เก้าอี้ลายตลกๆนั่น

"แล้ว? " สายตาเขายังคงจ้องมาที่ฉัน

"ฉันนึกได้แค่นั้น" คงหวังให้ฉันนึกอะไรที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้สินะ เขาเอามือกุมขมับของเขาทันที

"แต่ฉันสัญญาว่าฉันจะพยายามนึกให้ออก ถ้าฉันได้ข้อมูลอะไรที่ทำให้ฉันเจอร่างของฉันได้ ฉันจะไปจากนายทันที ฉันจะ..."

"ฉันว่าเธอ...."

"แค่ให้ฉันมีคนที่สื่อสารกับฉันรู้เรื่อง ฉันไม่อยากเดินไปตามถนนงี่เง่านั่นแล้วคนอื่นไม่เห็นฉัน ฉันขอเถอะนะ" ฉันยกมือไหว้เขาพลางมองหน้าอ้อนวอน คิ้วดำเข้มที่วางเรียงอยู่เหนือดวงตาสีน้ำตาลที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย ทำให้ฉันเริ่มถอดใจอีกครั้ง

"ฉันเข้าใจละ นายเปิดประตูให้ฉันหน่อยละกัน"ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้เป็ดยิ้ม ต่างกับฉันที่ยิ้มแทบไม่ออก

"เธอพูดจบรึยัง"ฉันหันขวับมาที่เขาทันที

"ฉันจะให้เธออยู่ที่นี่ จนกว่าเธอจะจำอะไรได้ แต่ถ้าเธอรู้ว่าเธอคือใคร อยู่ที่ไหน เธอต้องออกไปจากชีวิตฉันทันที"

"ขอบ..."

"ฉันยังพูดไม่จบ เมื่อเธอนึกอะไรได้เธอต้องบอกฉัน ฉันมีกฎถ้าเธอจะอยู่ที่นี่เธอต้องทำตาม ข้อหนึ่ง เธอห้ามคุยกับฉันหน้าคนอื่น สอง ห้ามขโมยของในบ้าน สาม ห้ามกรี๊ดเเบบเมื่อตะกี๊นี้ หรือ ตะโกน สี่ ห้ามกินของโดยไม่ได้รับอนุญาติ #$@&^(*#!#$&฿**#@" ฉันมีที่พึ่งเเล้วโว้ย! ฉันจ้องมองปากของเขาที่ตอนนี้ขยับไปมาไม่หยุด ฉันแทบไม่ได้ฟังที่เขาพูดอยู่เลยเเค่จับใจความได้ว่าเป็นข้อห้ามสารพัดที่ฉันต้องปฎิบัติตาม ฉันพยักหน้าตามเขาทุกครั้งที่เขาพูดจบเเต่ละข้อห้ามนั่น เป็นครั้งแรกที่ฉันได้สังเกตหน้าเขาตรงๆ คิ้วหนาที่แสนดกดำโค้งรับโครงหน้าได้อย่างดี ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ดูแสนจะเข้าถึงยากคู่นั้น รวมถึงริมฝีปากที่เหยียดตรงอยู่ตลอดเวลาทำให้รู้ว่าเขาคงไม่ใช่เป็นคนที่ยิ้มง่ายสักเท่าไหร่

"และให้ฉันเดานะ เธอน่าจะเป็นลูกครึ่งเอเชีย"ฉันไม่รู้ตัวเองเลยว่าได้แอบมองหน้าเขาไปนานเท่าไหร่ พอฉันได้สติก็เจอกับคำถามที่นายนั่นตั้งมาให้ตอบอีกตามเคย

"ห๊ะ เอเชียหรอ? ทำไมนายคิดงั้นอะ" เขาไล่สายตามาที่ฉันเริ่มจากหัวจรดเท้า

"ก็ตาเธอ ผม อีกอย่าง....."สายตาเขาหยุดอยู่บริเวณหน้าอกของฉัน ก่อนที่จะเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ๆฉัน

"หน้าอกเล็กขนาดนี้ ชัวร์!"เขาตวัดนิ้วชี้มาตรงหน้าอกของฉัน ก่อนยิ้มเเละเดินออกจากห้องไป ฮึ่ยยย ไอ้หัวดำไร้มารยาท นมเล็กก็ไม่ได้แปลว่าเป็นคนเอเชียนี่หว่า บ้าชะมัด! ว่าแต่หน้าตาฉันเหมือนคนเอเชียหรอตั้งเเต่ฟื้นมาก็ยังไม่เห็นหน้าตาตัวเองเลยนี่หว่า ฉันรีบเดินไปที่กระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องของเขา หึ ฉันหัวเราะกับความคิดโง่ๆ ฉันจ้องมองกระจกซึ่งสะท้อนทุกสิ่งทุกอย่างยกเว้นตัวของฉัน ฉันเป็นผีหนิ เมื่อไหร่จะจำได้สักที

"อะ เอามาให้"ฉันสะดุ้งกับเสียงของนายหัวดำที่กลับเข้ามาในห้องตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

"ฉันไม่รู้ว่าเธอจะกินมันยังไง แต่เผื่อหิว"ฉันมองตามมือที่ชี้ไปที่ถุง M&M ห่อใหญ่ที่ถูกโยนลงไปที่เตียง ฉันลองตั้งสติ พลางนึกในใจ 'จะจับมันได้มั้ยนะ'

'แกร๊ก'ถุงM&M ถูกเปิดออกด้วยมือของฉันเอง ฉันมองหน้าเขา เช่นเดียวกับเขาที่มองมาที่ฉันเหมือนกัน ตกลงไอ้พลังนี่มันจะมาเมื่อไหร่ก็มาหรอ ฉันสับสนกับความสามารถนี่จริงๆ

"เธออาจจะต้องใช้เวลากับมัน ไอ้เรื่องแตะของหน่ะ จากประสบการณ์ที่ฉันเคยเจอ" เขาตอบพลางเอามือลูบที่ท้ายทอย

"อ่อ เอิ่มฉันถามชื่อนายได้มั้ย นายคงไม่อยากให้ฉันเรียกนายว่านายหัวดำตลอดไปใช่ป่ะ"

"คาลัม ฮู๊ด เรียกคาร์ลก็ได้ รู้เเค่นี้ก็พอ" เขามองฉันนิ่ง ฉันพยักหน้าตอบเขาไป ฉันลองเอาขนมในมือเข้าปาก ความรู้สึกของช๊อคโกแลตละลายในปาก ทั้งๆที่เป็นวิญญาณแต่ทำไมรู้สึกเหมือนเป็นคนอย่างนี้หล่ะ

"กินได้ก็ดี จะได้ไม่ต้องลำบากฉันต้องเผาของกินไปให้เหมือนคนก่อนๆ"

"คนก่อนๆ นายเคยเห็นวิญญาณแบบฉันมาก่อนหรอ" ฉันนับถือเขาจริงๆ ถ้าฉันต้องเห็นผีตลอดเวลาฉันขอตายดีกว่า แค่คิดก็สยองละ

"ก็เคยบ้างเเต่เมื่อนานมา...."

"แล้วที่นายเห็นนี่เคยมาแบบหน้าเละเลยป่ะ"

"ก็มาแบบเธอเนี่ยแหละ ส่วนมากก็เข้ามาขอให้ฉันตามหา..."

"โห อย่างเจ๋ง แล้วนายช่วยผีทุกตนเลยมั้ยอะ"

( - - ) <<<<<หน้าของคาร์ล

"เธอช่วยเลิกขัดฉันพูดสักวิได้มั้ยเนี่ย น่ารำคาญชะมัด" เขาทำหน้าอารมณ์เสียใส่ฉันอีกครั้ง ฉันยิ้มแห้งๆเป็นคำตอบแทน

"ตอนเป็นคนฉันคงเป็นคนพูดเก่งหนะ "ฉันพูดเบาๆพลางคุ้ย M&Mในถุง

"ฉันว่าคงจะเป็นอย่างงั้น ไอ้สัมผัสเฮงซวยนี่ฉันได้มันมาตั้งเเต่เด็กๆ ฉันเห็นผีแบบเธอจนชินไปแล้ว แต่มันก็หายไปตั้งเเต่ฉันช่วยแคทอรีน "เขาหยุดพูดไปช่วงหนึ่ง 'แคทอรีน' ฉันทวนชื่อนั้นในใจ คิ้วเข้มๆของเขาเริ่มขมวดเข้าหากัน ตาสีน้ำตาลที่เพ่งไปยังฝ่ามือของเขา ทำให้ฉันเดาไม่ยากว่าเขาคงมีอะไรสักอย่างกับ 'แคทอรีน' อย่างเเน่นอน

"จนได้เจอกับวิญญาณจอมตื้ออย่างเธอนี่เเหละ" ฉันงงกับอารมณ์ของนายนี่จริงๆเลย เมื่อกี้ยังก้มหน้าก้มตาระลึกถึงความหลัง ถัดมาไม่กี่นาทีกลับมาทำหน้ายักษ์ใส่ฉัน

แอ๊ดดดด ~~~คาร์ลและฉันหันไปมองที่ประตูที่กำลังถูกเปิดออก

"คาร์ล มึงรับไปแต่งตัวเลย เมื่อกี้คาร่าโทรมาบอกว่าเราต้องไปสัมภาษณ์ที่ nova " ลุค ชายหนุ่มในฝันของผู้หญิงหลายๆคนรวมถึงวิญญาณอย่างฉันด้วย เขาโผล่หัวเข้ามาก่อนโยนเสื้อมาที่คาลัม

"ไหนบอกวันนี้ไม่มีงานไงวะ " คนข้างตัวฉันตอบกลับเทพบุตรหัวทองไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"โปรโมทเพลงมั้งมึง 10 นาทีเจอข้างล่างนะ แล้วแปรงฟันด้วยละกินM&Mเป็นถุงขนาดนั้น "ลุคชี้มาที่ถุง M&M

ที่ฉันวางอยู่บนเตียง โอ้ยคนอะไรทำไมน่ารักขนาดนี้ ฉันมองลุคจนนาทีที่เขาปิดประตูไป ขนาดเขาออกไปแล้ว หน้าเขายังลอยอยู่หน้าฉันอยู่เลย ทำไมไม่เป็นลุคนะที่เห็นฉัน TT

"( - - )" ฉันหันกลับมาเจอคาร์ลทำหน้านิ่งใส่ฉัน ฉันยอมรับเลยว่าหน้านิ่งๆทำให้ฉันสะดุ้งนิดๆ

"อย่าคิดจะกินเพื่อนฉันเด็ดขาด แต่เธอคงทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วหล่ะ หึ" หน้าฉันแสดงความรู้สึกมากขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย ฉันเหยียดปากใส่เขาที่กำลังลุกขึ้นจากเตียงพร้อมถกเสื้อขึ้น

"เฮ้ยๆ คาลัม! นายจะทำอะไร" ฉันเรียกคาลัมที่แทบไม่ได้สนใจกับคำพูดลอยๆของฉันเลย นายนั่นถอดเสื้อที่ไม่กี่วินาทีที่เเล้วมันอยู่บนตัวของเขา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นซากกองอยู่ที่พื้นห้องเรียบร้อย

"เปลี่ยนเสื้อ เธอไม่ได้ยินที่ไอ้ลุคมันพูดเมื่อกี้หรอไง" เขาพูดก่อนจะปลดซิปกางเกงยีนส์รัดรูปแนบเนื้อนั้นลงมาจนเห็นขอบบ็อกเซอร์

"เฮ้! ฉันยืนหน้าโง่อยู่ตรงนี้นะ อีกอย่างนายไม่รู้จักห้องน้ำหรอวะ" ไม่ใช่ฉันอ่อนต่อโลกที่เห็นผู้ชาย'จะ'แก้ผ้าแล้วจะวิ่งหนีหรืออะไรหรอกนะ ยกเว้นเห็นจังๆแบบของนายหัวชมพูเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แต่ถ้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ควรไปเปลี่ยนในห้องน้ำไม่ใช่หรือไงแบบคนปกติหนะ

"นี่ห้องฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้" คาลัมเริ่มถกยีนส์ลงไปจนเห็นบ๊อกเซอร์เกือบทั้งตัว แล้วจะทำอะไรอยู่หล่ะคะ สาวใสไร้เดียงสาอย่างฉันก็ได้อัญเชิญหน้าตัวเองไปยังหน้าต่างเพื่อหลีกเลี่ยงฉาก AV ที่นักแสดงนำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน 'อีตาโรคจิตคาลัม' นั่นเเหละ

"หน้าไม่อาย" ฉันบ่นกับตัวเอง พลางมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อหาสิ่งที่จะมาลบล้างกล้ามล่ำๆที่เห็นเมื่อกี้ 'ความคิดลามกกกก ออกไปจากหัวฉันเดี๋ยวนี้!!!' ฉันส่ายหัวไปมา ถ้าฉันควบคุมพลังได้เมื่อไหร่เหอะ ประตูบานไหนก็ไม่สามารถขวางฉันได้

"ฮ่าฮ่า สนุกชะมัด หันมาได้เเล้ว" ฉันหันกลับไปเจอกับเขาที่ยืนหัวเราะเยาะฉันอยู่ใส่เสื้อสีดำแขนกุดกับกางเกงยีนส์'ตัวเดิม' แกล้งฉันสินะ เขาไม่ได้เปลี่ยนกางเกงงี่เง่านั้นเลย ภาพในหัวฉันตอนนี้ฉันกำลังยืนตบหัวหยองๆของเขาอยู่ ขอย้ำ!ว่าภาพในหัวฉันนะ

"ฉันต้องออกไปข้างนอก ดังนั้นห้ามแตะต้องอะไรทั้งนั้นจนกว่าฉันจะกลับมา ไม่งั้นเธอได้ระเห็ดไปนอนข้างถนนเเน่"เขาหยิบมือถือ เเล้วเดินไปเปิดประตูพลางส่งสัญญาณให้ฉันออกมาจากห้องนอนเขา เขาเดินนำหน้าฉันไปข้างล่าง ฉันได้เเต่เดินตามเขาไปจึงเห็นความวุ่นวายของการเตรียมเครื่องดนตรีไปยังรถที่จอดรออยู่หน้าบ้าน ฉันก้าวมายืนในที่ที่พ้นวิถีความวุ่นวายหน้าเตาผิง พลางมองรูปครอบครัวที่ตั้งอยู่ มีชาย หญิง ค่อนข้างมีอายุ แล้วก็เด็กผู้ชายที่ยืนยิ้มกว้างนั้นคงเป็นคาลัม ถัดมาเป็นผู้หญิงวัยรุ่นหน้าตาคล้ายกับนายนั่นอย่างมากหรือนั่นคือ'แคทอรีน' นะ

"ฉันไม่รู้ว่าจะกลับมากี่โมง ขอย้ำว่า.."ฉันหลุดจากความคิดทันทีที่คาลัมทำทีว่ามาหยิบกีตาร์ที่วางข้างๆเตาผิง

"ห้ามแตะของในบ้าน ฉันเข้าใจเเล้ว"ฉันสวนขึ้นก่อนที่เขาจะพูดจนจบ คาลัมพยักหน้าเบาๆก่อนเดินตามเพื่อนๆของเขาออกจากบ้านไป

'ปัง~' เสียงประตูบานใหญ่ที่ปิดลง ฉันมองรอบๆบ้านที่ตอนนี้มีเเค่ฉันคนเดียว เสียงนาฬิกาที่ถูกขลึงไว้กับกำแพง ดังเป็นจังหวะๆ ฉันทิ้งตัวเองไปบนโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้องรับแขก บางที่นี่อาจเป็นเวลาที่ดีที่ฉันจะได้ทบทวนความทรงจำของฉันก็ได้ เเต่ยิ่งฉันนึกเท่าไหร่ก็พบกับความว่างเปล่าทุกครั้ง ฉันจึงลองทบทวนความต้องการของฉันในตอนนี้ว่ามันคืออะไรระหว่าง นึกถึงสิ่งที่ฉันจำไม่ได้ กับ ทำยังไงถึงฉันจะแตะสิ่งของได้ สมองของฉันเลือกอย่างแรก แต่ความรู้สึกของฉันกลับให้ทำตามอย่างหลัง ฉันขยับตัวจากโซฟาพร้อมมองแก้วสีแดงบนโต๊ะที่วางระเกะระกะอยู่

"ฉันต้องหยิบมันขึ้นมาให้ได้"ฉันตั้งสตินึกในใจว่ามือฉันต้องไม่ทะลุไปจากแก้วโง่ๆนั่น ฉันเอื้อมมือไปหน้าแก้ว แล้วค่อยๆจับมันตั้งตรงขนานกับพื้นโต๊ะ ฉันตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันลองมองหาเป้าหมายใหม่ที่จะคอนเฟิร์มว่าฉันแตะของได้จริงๆ เสื้อเชิ๊ตที่ถูกวางทิ้งไว้ที่พื้นราวกับผ้าเช็ดพื้น 'ตั้งสติ นึกในใจว่าเธออยากทำอะไร' คำพูดในหัวสมองฉันดังวนไปวนมา ฉันก้มลงไปหยิบเสื้อเชิ้ตนั้นพาดกับหัวบันได

"เยสสส! ฉันทำได้เเล้วโว้ยย" ฉันกระโดดไปมาอย่างกับคนเสียสติ หลังจากนั้นฉันก็ลองหยิบนู้น หยิบนี่ เปิดนู้น ปิดนี่ ฉันว่าเป็นวิญญาณก็สนุกดีนะ ได้รู้สึกอะไรๆที่มนุษย์ไม่สามารถรู้สึกได้ ฉันวิ่งขึ้นมาข้างบน จะไปห้องไหนก่อนดี เอาห้องนายจอมบงการก่อนละกัน ฉันจะค้นให้หมดเลยคอยดูเหอะ!

ฉันเปิดประตูเจอกับห้องนอนที่แสนจะสกปรกเช่นเดิม ฉันมองสำรวจของต่างๆในห้องพลันสายตาฉันกลับไปสะดุดกับโมเดลรถมินิเเวนสีดำที่ตั้งอยู่บนหัวนอน อาการปวดหัวกลับมาอีกครั้ง ภาพเก่าๆเริ่มลอยเข้ามาในหัวฉันไม่ยั้ง อาการปวดแสนสาหัสที่แทรกเข้ามาทำให้เข่าของฉันทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย

'ไปซิดนีย์หรอค่ะแม่' ฉันมองรอบๆตัวที่เมื่อหลายนาที่ก่อนคือห้องนอนของนายคาลัม แต่ ณ วินาที่นี้ ฉันกลับเห็นวอลเปเปอร์ที่คุ้นตา ฉันหลุดเข้ามาในความทรงจำฉันหรอ ฉันเพ่งสายตาไปยังร่างผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเตียงสีครีม สลับกับแม่ของฉันที่ยืนพิงกำแพงอยู่ นั่นตัวฉันหรอ ฉันไม่รอช้ารีบก้าวเท้าไปยังร่างที่อยู่บนเตียงนั้นทันทีก่อนมองอยู่นานแสนนาน 'หน้าตาฉันเป็นแบบนี้หรอ' ฉันเอื้อมมือไปยังคนตรงหน้า ฉันมีผมสีน้ำตาล ฉันมีตาสีน้ำตาล ตาคู่นั่นจ้องมาที่ฉันเหมือนจะเห็นฉันแต่มันคงเป็นไปไม่ได้สินะ ฉันจะกลับเข้าไปหาเธอได้ยังไงนะ ร่างของฉันลุกขึ้นจากเตียงเเละเดินผ่านฉันไปอย่างง่ายดาย

'พ่อได้งานใหม่ที่นั่นหนะลูก อาทิตย์หน้าเราจะย้ายไปอยู่บ้านป้า เตรียมเก็บของด้วยหล่ะ'ฉันนั่งนิ่งมองร่างของตัวเองรับไออุ่นจากอ้อมกอดของแม่ อย่างน้อยฉันก็เคยมีความรู้สึกที่เเสนอบอุ่นอย่างนี้

"Ouchhhh!!!!" อาการปวดเริ่มเล่นงานฉันอีกครั้ง ก่อนที่ภาพในห้องนอนจะเริ่มหมุนและหายไป กลายมาเป็นฉันที่ยืนอยู่ข้างรถมินิแวนสีดำที่มีพ่อ แม่ เเละร่างของฉันเองนั่งอยู่ในรถ เสียงเร่งเครื่องยนต์ทำให้ฉันรู้ว่ารถข้างๆฉันกำลังจะเคลื่อนตัวออกไปในไม่ช้า

"เฮ้! จะไปไหนกัน เอาฉันไปด้วยสิ พ่อออ" ฉันที่เป็นวิญญาณวิ่งไปทุบกระจกแต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรๆมันเปลี่ยนเเปลง รถแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว 'TSCQ107' ป้ายเหล็กที่ห้อยอยู่ท้ายรถเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจำได้และฉันต้องจำมันให้ได้ ฉันวิ่งตามรถมินิเเวนไปแต่ยิ่งวิ่งเร็วแค่ไหน รถคันนั้นกลับไกลออกไปเรื่อยๆบวกกับอาการปวดหัวที่ทวีความรุนเเรงขึ้นอีก ฉันผ่อนกำลังวิ่งลงพร้อมหลับตาเผื่อช่วยให้อาการปวดบ้าๆนี่หายไปได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยใหัอะไรดีขึ้นเลย

"Shit!" ฉันเหมือนถูกเหวี่ยงอย่างเเรงจากด้านข้าง

'เปิดเสียงหน่อยค่า' ฉันลืมตาทันทีที่ได้ยินเสียงฉันอีกครั้ง ฉันมองรอบๆตัวพบว่าฉันได้มาอยูในรถคันเดียวกันกับครอบครัวที่เมื่อกี้ฉันกำลังวิ่งตามอยู่ ฉันมองไปผู้หญิงตรงหน้าที่ฮัมเพลงอย่างสบายใจ วิญญาณเธอกำลังทรมานอยู่นะ เธอรู้บ้างรึเปล่าเนี่ย

'ดื่อ ดึ่ง'เสียงที่ดังจากมือถือในมือของร่างของฉัน บวกกับเเสงหน้าจอที่สว่างวาบ ร่างของฉันปลดล็อคมือถือนั่นก่อนจะพิมพ์อะไรสักอย่างตอบกลับไปพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฉันงงกับอาการตัวเองจึงรีบเคลื่อนตัวไปมองหน้าจอนั้นทันที

'ว่าแต่ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนเเล้วที่รัก?-nick' นิค ใครคือนิค แล้วทำไมเขาถึงเรียกฉันว่าที่รัก นี่ฉันมีแฟนแล้วหรอ

'อยู่ warringah freeway นายยังมีหน้ามาคุยกับฉั...'ไม่ทันที่ร่างของฉันจะพิมพ์ข้อความจนจบ

'คุณ!!! ระวัง กรี๊ดดดดดดดด!' เสียงกรี๊ดของแม่ดึงให้ฉันละสายตาจากหน้าจอมือถือไปยังทางข้างหน้า แต่ไม่ทันที่สายตาฉันจะโฟกัสกับอะไร แรงกระเเทกที่พุ่งมาจากหน้ารถ ทำให้ทุกคนในรถ รวมถึงร่างของฉันถูกกดทับด้วยเหล็กที่เคยเป็นส่วนประกอบของรถยนต์ ภาพที่วิญญาณอย่างฉันเห็นคือ ตัวฉันถูกเบาะหน้าบีบร่างของฉันเอาไว้ราวกับเครื่องบีบขยะ ฉันจับที่หน้าอกของตัวเอง ขนาดฉันที่เป็นวิญญาณยังเจ็บมากขนาดนี้ ฉันมองไปยังร่างเบื้องหน้าที่กำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดที่ไหลลงมาจากหัวและเริ่มทยอยไหลอย่างกับน้ำออกมาจากปาก แรงเหวี่ยงยังคงถาโถมใส่ร่างของฉันอย่างต่อเนื่อง พอๆกับพ่อและเเม่ของฉันเหมือนกัน ยิ่งร่างของฉันเจ็บมากเท่าไหร่ ฉันเหมือนเจ็บมากกว่าเป็นสองเท่า แรงเหวี่ยงเริ่มช้าลงเช่นเดียวกับร่างของฉันที่ค่อยหลับตา

"ไม่! ฟื้นสิ ฟื้นเดี๋ยวนี้!!!" ฉันเอื้อมมือไปลูบหน้าของร่างฉัน สีผิวขาวซีดที่ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดเกือบทุกที่ ร่างของฉันนอนแน่นิ่งเหมือนกับอีกสองร่างข้างหน้ารถ

"ไม่จริง พระเจ้า!! ไม่จริง!!" ฉันตะโกนสุดเสียง ภาพตรงหน้ามันทำให้ฉันเสียสติ ร่างฉันนอนจมกองเลือดที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ฉันพยายามดิ้นออกจากซากรถ แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ฉันยิ่งรู้สึกเหมือนโดนฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ ความเจ็บปวดเริ่มเพิ่มความรุนเเรงมากขึ้น น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาจากตาของฉันทั้งสองข้าง ฉันปวด ปวดมากเหลือเกิน

"ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย!! ฉันติดอยู่ในนี้ ช่วยด้วย!!!!!!!!!" ฉันแผดเสียงที่ปนเสียงสะอื้นอย่างไม่อายใคร ถึงแม้ว่าการตะโกนจะยิ่งทำให้ฉันเจ็บมากแค่ไหนก็ตาม

"ฮืออออ ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วยยย ฮือออ" อาการปวดตรงหน้าอกรวมถึงแขน ขา ทำให้ฉันร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง นี่ฉันเป็นวิญญาณใช่มั้ย ทำไมฉันถึงได้รู้สึกเจ็บมากขนาดนี้

"เอาฉันออกไปที ได้โปรดด!! ฮืออ"

"เฮ้!!!! ฉันบอกเธอว่าไง ห้ามตะโกนไง ฟังภาษาคนไม่.... เธอ!" เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้ๆฉัน พร้อมกับสัมผัสอุ่นๆจากมือหนาๆเข้ามาแตะที่เเขนของฉัน

"เอาฉันออกไปที ฉันติดอยู่ในนี้ โอ้ย" ฉันลืมตาที่เปรอะไปด้วยน้ำใสๆแล้วพยายามจะปาดมันออก แต่อาการปวดที่แขน รวมถึงส่วนอื่นๆยังเล่นงานฉันไม่ยอมหยุด เสียงทุ้มที่พูดก่อนหน้านี้ ทำให้ฉันเดาได้ไม่ยากว่าเป็นเสียงของใคร 'คาลัม ฮู๊ด'

"ออกไปไหน เฮ้ ใจเย็นๆ" ภาพมัวๆผ่านม่านตาของฉันที่ยังคงถูกปกคลุมด้วยน้ำตางี่เง่านี่ ทำให้ฉันเห็นเขากำลังนั่งยองๆอยู่ข้างหน้าฉัน

"ฉันไม่ไหวแล้ว มันปวดเหลือเกิน ฉันรับมันไม่ไหวแล้ว ฮืออออ" ฉันพูดกับเขาพร้อมร้องไห้ออกมาอย่างน่าสมเพศ ฉันยกมือของฉันมาแนบที่หน้าอกที่ตอนนี้ปวดเหมือนโดนมีดแหลมหลายล้านเล่มทิ่มเเทงอยู่

"ฉันเจ็บตรงนี้ ฉันรับไม่ไหวเเล้ว" ฉันเปล่งเสียงเบาๆ พลางก้มมองมือที่ก่อนหน้านี้มันอยู่บนหน้าอกของฉัน เเต่ตอนนี้กลับถูกมืออุ่นๆของชายตรงหน้าดึงไปหาร่างของเขา

"ชู่ววววว ชู่วววว เธอไม่ต้องรับอะไรเเล้ว ชู่วววววว" เขากระซิบข้างหูแล้วโอบร่างของฉันไว้ พลางวางมือลงบนหัว เขากระชับอ้อมเเขนแน่นขึ้น ก่อนลูบเบาๆที่หลังของฉันอย่างต่อเนื่อง ฉันซุกหน้าที่เคลือบไปด้วยน้ำตาลงบนอกของเขา มันน่าแปลกที่ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้าหาฉันอย่างกับพายุเมื่อไม่กี่นาทีที่เเล้วค่อยๆเบาลง เช่นเดียวกับเปลือกตาที่แสนจะหนักอึ้งของฉันที่กำลังปิดลงอย่างช้าๆ

Writer's talk : มาอัพเเล้ววววววววว ตอนเเรกกะจะทำพาร์ทนี้ออกเเนวกุ๊กกิ๊กๆเเต่มันกลายเป็นดราม่าเฉย 5555 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้น & vote มากๆเลยน้า เป็นกำลังใจให้ไรท์อย่างมาก อยากถามว่าทุกคนงงกันมั้ยตอนที่อ่านพาร์ทที่นางเอกหลุดไปอยู่ในความทรงจำ ถ้างงบอกได้เลยน้า จะได้แก้ให้ อ่านเสร็จเเล้วอย่าลืมเม้นให้กำลังใจนางเอกเราด้วยน้าาาาา :)

Bạn đang đọc truyện trên: Truyen247.Pro